วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

การลงทุนแบบเฉลี่ยต้นทุน หรือ DCA


การถัวเฉลี่ยต้นทุนของทรัพย์สินที่ลงทุน


การลงทุนแบบเฉลี่ยต้นทุน หรือ DCA (Dollar Cost Averaging)


เผยแพร่เมื่อ 5 ก.ค. 2014  DCA (Dollar Cost Averaging)


DCA (dollar-cost averaging)
เวลาเรามีเงินเหลือเก็บ เราก็อยากจะหาทางเลือกให้กับเงินของเรา อยากให้มัน “งอกเงย” วิธียอดนิยมก็คือ เก็บไว้เป็นเงินฝากออมทรัพย์ แต่ทว่าดอกเบี้ยมันช่างต่ำเตี้ยเสียเหลือเกิน จริงมั้ยครับ? ครั้นจะมาลงทุนในหุ้นก็ดูจะเสี่ยง แต่โอกาสที่ผลตอบแทนจะสูงกว่าการฝากเงินกินดอกเบี้ยก็มีอยู่ จะมีหนทางตรงกลางที่ไม่เสี่ยงมาก แต่ได้ผลตอบแทนคุ้มค่าหรือไม่? ข่าวดีก็คือ “มีครับ” หนทางนั้นก็คือ การลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน 
หรือ DCA (dollar-cost averaging) เราจะมาดูกันว่า DCA (dollar-cost averaging) คืออะไร? และมีข้อดีข้อเสียอย่างไร? พร้อมแล้วตามผมมาเลยครับ

"DCA จะทำให้เราสามารถซื้อหน่วยลงทุน หรือหุ้นในจำนวนที่มากขึ้นหากราคาหุ้นปรับตัวต่ำลง และจะซื้อได้น้อยลงในขณะที่ราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้น"
การลงทุนแบบ DCA (dollar-cost averaging) นั้นคือการลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน ขอเรียกสั้นๆ ว่า DCA ก็แล้วกันครับ ซึ่งการลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน หรือ DCA ก็คือ การที่เรากำหนดการลงทุนเป็นงวดๆ งวดละเท่าๆ กัน อาจลงทุนเป็นรายเดือน รายไตรมาส โดยไม่สนใจว่าราคาหน่วยลงทุน หรือราคาหุ้นที่เราจะซื้อตอนนั้นเป็นราคาเท่าไร จะขึ้นหรือจะลง ก็ไม่สนใจ การลงทุนแบบนี้จะเป็นระบบตัดเอาอารมณ์ความรู้สึกออกไป เป็นการลงทุนแบบอัตโนมัติไปเรื่อยๆ โดยตั้งเป้าหมายเป็นจำนวนเงินที่ต้องการลงทุนเป็นหลัก การที่เราลงทุนโดยซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวม หรือหุ้น ด้วยวิธี DCA จะทำให้เราสามารถซื้อหน่วยลงทุน หรือหุ้นในจำนวนที่มากขึ้นหากราคาหุ้นปรับตัวต่ำลง และจะซื้อได้น้อยลงในขณะที่ราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้น แต่โดยเฉลี่ยแล้วเราจะไม่ต้องมาคอยกะเก็งการขึ้นๆ ลงๆ ของราคาหุ้น หรือของกองทุนที่เราต้องการซื้อเฉลี่ย ทำให้ลดความเครียดลงไปได้มากครับ

 ข้อดีของการกระจายการลงทุนอย่างเป็นระบบด้วยวิธี DCA


ก็คือ ถ้าภาวะตลาดในช่วงนั้นมีความผันผวนมากๆ หรือเป็นตลาดขาลง เราจะมีโอกาสขาดทุนน้อยกว่าวิธีที่เราซื้อทั้งหมดในครั้งเดียว แต่ในช่วงขาขึ้นวิธีนี้ก็จะให้ผลเป็น “ค่าเฉลี่ย” ที่ไม่มีความเสี่ยงสูง และสามารถเอาชนะตลาดได้ หรือเสมอกับตลาดเป็นอย่างน้อยที่สุดครับ ลองมาดูแบบจำลอง DCA ในรอบ 1 ปี หากเราตัดซื้อเฉลี่ยหุ้นตัวหนึ่งที่มีราคาอยู่ในช่วง 6-15 บาท โดยซื้อเฉลี่ยทุกเดือน เดือนละ 3,000 บาท เราสามารถจำลองโอกาสที่จะเกิดขึ้นดังต่อไปนี้



จากตารางจะเห็นว่าหากราคาหุ้นที่เราต้องการซื้อเฉลี่ยแกว่งตัวอยู่ในช่วง 6-15 บาท ถ้าเราตัดซื้อเฉลี่ยทุกเดือนๆ ละ 3,000 บาท เราจะได้ต้นทุน 9.67 บาทต่อหุ้น ต่ำกว่าราคาหุ้นในเดือน 12 ที่ปิดไป 15 บาทต่อหุ้น โดยเราจะได้จำนวนหุ้น 3,900 หุ้น และใช้เงินไป 36,000 บาท หากเราซื้อหุ้นทีเดียวเมื่อสิ้นปีที่ราคา 15 บาทต่อหุ้น ด้วยเงินจำนวน 36,000 บาทเช่นกัน เราจะได้หุ้นเพียง 2,400 หุ้น น้อยกว่าวิธีที่เราซื้อเฉลี่ยด้วยแนวทาง DCA นั่นเองครับ

ข้อดีของวิธี DCA นั้นนอกจากจะช่วยเฉลี่ยความเสี่ยงให้เราแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้อาจจะดีกว่าการกะเก็งจังหวะซื้อด้วยตัวเอง แต่ข้อดีอีกข้อหนึ่งที่ผมคิดว่าสำคัญก็คือ การทำ DCA นั้นเป็นระบบที่ทำให้เรามีวินัยในการลงทุน ไม่หลงไปกับความผันผวนของตลาดในระยะสั้นๆ ทำให้เราเกิดความต่อเนื่องในการลงทุน และสามารถใช้การลงทุนช่วยทำให้เราออมเงินได้งอกเงยสมดังความตั้งใจได้ไม่ยากครับ

           ========== >>>>
           หากท่านต้องการรับบทเรียนรู้ทั้ง 10 บท

             ติดตามได้ที่ >>>>> http://wiwat-planner10.blogspot.com/ <<<<<
           <<<<<.......ผมพร้อมจะเป็นโค้ชให้ทุกท่านครับ.....>>>>>